Thursday, September 13, 2007

9 เทคนิคฝึกสมองไบรท์ (ฝึกไว้ใช้อ่านสือสอบค่ะเพื่อนๆ 55+)

ผู้หญิงสมัยนี้อยาก สวย เก่ง และสุขภาพดี ทุกคนจึงพากันดูแลรูปร่างด้วยการออกกำลังกาย เคร่งครัดเรื่องอาหารการกิน แต่ไม่มีใครใส่ใจว่าจะดูแลสมองอย่างไรให้มีสุขภาพดี ทั้งที่สมองเป็นอวัยวะที่ใช้ตัดสินทุกเรื่องในชีวิต เราจึงควรออกกำลังกายสมองด้วยวิธีง่ายๆ 9 เทคนิคดังนี้

1. จิบน้ำบ่อยๆ สมองประกอบด้วยน้ำร้อยละ 85 ซึ่งสมองก็เหมือนกับต้นไม้ที่ต้องการน้ำหล่อเลี้ยง ถ้าไม่มีน้ำต้นไม้ก็เหี่ยว ถ้าเพื่อนๆไม่อยากให้เซลล์สมองเหี่ยว ซึ่งส่งผลให้การส่งข้อมูลช้า คิดช้า หรือคิดไม่ค่อยออก แต่ละวันเพื่อนควรจะดื่มน้ำบ่อยๆ (ดดยเลี่ย แล้ว 8 - 10 แก้วต่อวัน ค่ะ )

2. กินไขมันดี หรือ โอเมก้า 3 คนไม่ค่อยรู้ว่า สมองคือก้อนไขมัน ซึ่งจำเป็นต้องมีไขมันดีไปทดแทนส่วนที่สึกหรอ (ซึ่งตัวหนู มีแต่ไขมันส่วนเกิน แหะๆ) จึงแนะนำให้กินไขมันดีในระหว่างวัน ก็ได้แก่พวก น้ำมันตับปลา แปะก๊วย ปลาแซลมอน หรือนมถั่วเหลือง (หาซื้อง่าย ราคาประหยัด และ ประโยชน์อีกมากมายอีกตะหาก) วิตามินรวม ที่ทำให้เซลล์ชุ่มน้ำ ส่วนวิตามินซี เมื่อกินแล้วจะรู้สึกสดชื่น

3. นั่งสมาธิโดยเฉลี่ย 12 นาที / 1 วัน หลังจากการตื่นนอนแล้ว ให้ตั้งสติ นั่งสมาธิทุกเช้า วันละ 12 นาที เพื่อให้สมองเข้าสู่ช่วงที่มีคลื่น Theta ซึ่งเป็นคลื่นที่ผ่อนคลายสุดๆ ทำให้สมองเราโล่ง โปร่ง สบาย (ถ้าไม่ได้ทำตอนเช้า แนะนำว่า ก่อนนอนก็ยังดี)

4. ใส่ความตั้งใจ (ซึ่งสำคัญที่สุด) การตั้งใจในสิ่งใดก็ตาม เหมือนการวางโปรแกรมสมองว่านี่คือสิ่งที่ต้องเกิด ระหว่างเราสมองจะปรับพฤติกรรมเราให้ไปสู่เป้าหมายนั้น ทำให้เราประสบความสำเร้จในสิ่งต่างๆ เพราะว่าสมองเราไม่แยกระหว่างสิ่งที่ทำจริงและสิ่งที่คิดขึ้น ทั้งสองอย่างจึงเป็นเสมือนสิ่งเดียวกัน

5. หัวเราะและยิ้มบ่อยๆ ทุกครั้งที่ยิ้มหรือหัวเราะ จะมีสารเอ็นโดรฟิน ซึ่งเป็นสารแห่งความสุขหลั่งออกมา เท่ากับเป็นการกระตุ้นให้มีความอยากรักและหวังดีกับคนอื่นไปเรื่อยๆ

6. เรียนรู้สิ่งใหม่ๆทุกวัน สิ่งใหม่ๆในที่นี้หมายถึง สิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน เช่น กินร้านอาหารใหม่ๆ รู้จักเพื่อนใหม่ อ่านหนังสือเรื่องใหม่ คุยกับเพื่อนร่วมงานและเรียนรู้วิธีการทำงานของเขา เป็นต้น เพราะว่าการที่เราได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ทำให้สมองหลั่งสารเอ็นโดรฟิน และโดปามีน ซึ่งเป็นสารแห่งการเรียนรู้ ทำให้กระตุ้นให้อยากเรียนรู้อยากสร้างสรรค์ เมื่อมีความสุขก็มีความคิดสร้างสรรค์

7. ให้อภัยแก่คนอื่นและตนเอง ทุกวัน ขณะที่การไม่ให้อภัยตนเอง โกรธคนอื่น โกรธคนอื่น จะทำให้เปลืองพลังงานสมอง การให้อภัยแก่ตนเองและผู้อื่นเป็นการลดภาระของสมอง

8. เขียนบรรทึก ฝึกเขียนขอบคุณสิ่งดีๆที่เกิดขึ้นในแต่ละวันลงในสมุดทุกวัน เช่น ขอบคุณที่มีครอบครัวที่ดี ขอบคุณที่มีสุขภาพที่ดี เป็นต้น เพราะการที่เราเขียนเรื่องดีๆ ทำให้สมองคิดในเชิ่งบวก พร้อมกับการหลั่งสารเคมีที่ดีออกมา และจะช่วยให้หลับฝันดี ตื่นมาทำสมสาธิได้ง่าย มีความคิดสร้างสรรค์

9. ฝึกหายใจลึกๆ สมองใช้ออกซิเจน ร้อยละ 20 - 25 ของออกซิเจนที่เข้าสู่ร่างกาย การฝึกหายใจเข้าลึกๆจึงเป็นการส่งพลังงานที่ดีไปยังสมอง ควรนั่งหลังตรงเพื่อให้ออกซิเจนเข้าสู่ร่างกายได้มากขึ้น (และเป็นการฝึกบุคลิกภาพไปในตัวอีกตะหาก) ถ้านั่งทำงานนานๆ อาจจะหาเวลายืนหรือเดินยืดเส้นยืดสายเพื่อให้ปอดขยายใหญ่ สามารถหายใจเอาออกซิเจนเข้าสู่ปอดได้อีก 20 เปอร์เซ็น

การมีสมองที่ดีก็เหมือนทักษะทุกอย่างในโลกที่ได้เรียนรู้ แต่จะเก่งขึ้นหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับการฝึกฝน ถ้าเราดูแลฝึกฝนสมองให้มีสุขภาพดี คุณภาพชีวิตเราก็จะดีตามขึ้นไปด้วย

Thursday, September 6, 2007

10 ผลไม้ไทยที่มีสารต้านมะเร็งสูง (มารักษาสุขภาพกันเถอะค่ะ)

วันนี้เกร็ดความรู้มี 10 ผลไม้ไทยที่มีสารต้านมะเร็งสูงมาฝากกัน...

กรมอนามัยวิจัย 10 ผลไม้ไทย มีสารต้านมะเร็งสูง นางนัทยา จงใจเทศ นักวิทยาศาสตร์การแพทย์ กองโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า จากการทำวิจัย “องค์ความรู้เรื่องปริมาณสารต้านอนุมูลอิสระในผลไม้เพื่อส่งเสริมสุขภาพ (วิตามินซี วิตามินอี และ เบต้าแคโรทีน) ในผลไม้” ที่ทำการศึกษาในผลไม้ 83 ชนิด พบว่า

ผลไม้ 10 อันดับแรกที่มีเบต้าแคโรทีนสูงคือ
1. มะม่วงน้ำดอกไม้สุก
2. มะเขือเทศราชินี
3. มะละกอสุก
4. กล้วยไข่
5. มะม่วงยายกล่ำ
6. มะปรางหวาน
7. แคนตาลูปเนื้อเหลือง
8. มะยงชิด
9. มะม่วงเขียวเสวยสุก
10. สับปะรดภูเก็ต
ผลไม้ทั้งหมดนี้มีเนื้อสีเหลืองและสีเหลืองเข้ม

ส่วนผลไม้ที่ไม่มีเบต้าแคโรทีนเลย
1. แก้วมังกร
2. มะขามเทศ
3. มังคุด
4. ลิ้นจี่
5. สาลี่

ส่วน 10 อันดับแรกของผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงคือ
1. ฝรั่งกลมสาลี่
2. ฝรั่งไร้เมล็ด
3. มะขามป้อม
4. มะขามเทศ
5. เงาะโรงเรียน
6. ลูกพลับ
7. สตรอเบอร์รี่
8. มะละกอสุก
9. ส้มโอขาว
10. แตงกวา
11. พุทราแอปเปิล

การศึกษานี้พบผลไม้ที่มีวิตามินอีสูง 10 อันดับแรกคือ
1. ขนุนหนัง
2. มะขามเทศ
3. มะม่วงเขียวเสวยดิบ
4. มะเขือเทศราชินี
5. มะม่วงเขียวเสวยสุก
6. มะม่วงน้ำดอกไม้สุก
7. มะม่วงยายกล่ำสุก
8. แก้วมังกรเนื้อสีชมพู
9. สตรอเบอร์รี่
10. กล้วยไข่

ผลไม้ที่มีเบต้าแคโรทีน วิตามินซี และวิตามินอีน้อยทั้ง 3 ตัว คือ สาลี่ องุ่น และแอปเปิ้ล

ส่วนผลไม้ที่มีสารทั้ง 3 ตัว ค่อนข้างสูงคือ มะเขือเทศราชินี
ทั้งนี้ เบต้าแคโรทีน วิตามินซีและอี เป็นกลุ่มของสารอาหารที่ช่วยกำจัดอนุมูลอิสระที่ก่อให้ร่างกายเกิดการอักเสบ ทำลายเนื้อเยื่อ เกิดต้อกระจกในผู้สูงอายุ โรคมะเร็ง โรคหัวใจและหลอดเลือด สารทั้ง 3 ตัว โดยเฉพาะ เบต้าแคโรทีนจะช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ยับยั้งการก่อกลายพันธุ์ ป้องกันเนื้องอก ลดความเสี่ยงการเป็นต้อกระจก มะเร็งและหัวใจได้

จึงควรรับประทานผลไม้ในปริมาณมากพอสมควรทุกวัน หรืออย่างน้อยวันละ 4 ส่วนของอาหารที่รับประทาน เพื่อสุขภาพที่ดี