Monday, November 12, 2007

ในหลวงทรงร้องไห้

เมื่อวันที่ 8 มีนา ที่ผ่านมาผมได้ไปงานที่โรงเรียน
> > > >> เหมือนเช่นทุกปีตอนกลับเดินมาตามตึกยาวเพื่อจะกลับมาทางประตูด้าน
> > > >> เพาะช่าง ยังไม่ถึงบริเวณเศาลหลวงพ่อปู่
> พบอาจาร์ยท่านหนึ่งนั่งอยู่
> > > >> จำได้ว่าเป็นอาจารย์สุธี ท่านเกษียณไปแล้ว
> ไม่รู้คุณรู้จักรึเปล่า
> > > >> กราบอาจารย์ท่านแล้ว สังเกตุเห็นว่าอาจารย์ร้องไห้อยู่ ท่านบอก
> > > >> เพิ่งได้พบกับรุ่นพี่ที่มาในงาน รุ่นที่เท่าไหรก้อไม่ได้ถาม
> > > >> เป็นนายทหารราชองครักษ์ชั้นผู้ใหญ่ เค้าเล่าให้อาจารย์ฟังว่า
> > > >> ... ในหลวงทรงร้องให้..เห็นบ่อย
> > > >> ทรงเสียใจที่เมืองไทยจะสิ้นในรัชกาลของท่าน แล้วกระนั้นหรือ
> > > >> ผมอยากจะตอบอาจารย์ไปว่าคงไม่หรอก ถ้าคนไทย
> > > >> รู้จำคำว่าว่า' หน้าที่' มากกว่า'สิทธิ'
> เราเคยชินกับการเป็น..ผู้รับ...จากคนคนหนึ่งที่เกิดมาเป็น..ผู้ให้...ให้มาตลอด
> > > >> เคยชินจนลืมไปว่าวันนี้ถึงเวลาแล้วรึยังที่
> > > >> เราควรจะผู้ให้แก่พระองค์ท่านบ้าง... ผมลาอาจารย์เรียบร้อยร้อย
> > > >> กลับไปตามตึกยาว ไปไหว้ พระผู้ให้กำเนิดโรงเรียนอธิฐาษขอให้พระองค์ท่านช่วยคุ้มครองให้หลานท่านทรงมีแต่ความสุข..ทรงมีพระพลานาม> > ัยที่แข็งแรง...เพียงแค่ไม่อยากได้ยินว่า
> > > >> .. ในหลวงทรงร้องไห้ ความสุขของพระมหากษัตริย์ หนึ่งปีที่ผ่านมา
> > > >> เราใส่เสื้อเหลืองเราใส่สายรัดข้อมือสีเหลือง
> > > >> คนนับแสนไปนั่งรอเป็นชั่วโมงๆ
> หน้าพระที่นั่งอนันตสมาคมเพื่อจะได้เห็นพระพักตร์ของพระบาทพระเจ้าอยู่หัวเพียงไ
> > ม่กี่นาทีวันนั้น
> ในขณะที่ทั้งโลกเริ่มเสื่อมศรัทธาในระบบการปกครองโดยมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข
> > เราได้
> > > >> แสดงให้โลกได้เห็นว่ามีประเทศเล็กๆ
> > > >> ประเทศหนึ่งที่คนทั้งชาติยังซื่อสัตย์จงรักภักดีต่อราชวงศ์ จักรี และ
> > > >> พระมหากษัตริย์อันทรงเป็นที่รักยิ่งของคนไทย
> สิบสองปีที่ผ่านมา
> พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระประชวรหนักด้วยโรคหัวใจเพราะทรงงานหนักเกินไป
> > ขณะเดียวกัน
> > > >> สมเด็จพระราชชนนีก็ทรงพระประชวรหนักอยู่ ณ
> โรงพยาบาลศิริราชเช่นกัน
> เรายังจำรูปในหนังสือพิมพ์ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินไปทรง
> > เยี่ยมพระราชชนนี
> > > >> ไม่กี่วันหลังจากการผ่าตัดใหญ่ถวาย
> > > >> พระหัตถ์ข้างหนึ่งกุมอยู่ที่พระอุระ และในพระหัตถ์อีกข้างหนึ่งทรงถือ
> > > >> ม้วนแผนที่กรุงเทพฯ เพราะน้ำกำลังท่วมกรุงอยู่ ยังจำกันได้ไหม?
> > > > >> 34 ปีที่ผ่านมา วันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ.2516
> > > >> เป็นครั้งแรกในรัชกาลที่เกิดวิกฤติด้านการเมืองรุนแรงที่สุด วันนั้น
> > > >> นิสิตนักศึกษาและประชาชนนับหมื่นนับแสนเดินขบวนประท้วงรัฐบาล
> > > >> เหตุการณ์ร้ายแรงยิ่งขึ้นตำรวจทหารยิงประชาชน
> > > >> ในขณะที่นิสิตนักศึกษาก็เผาสถานที่ราชการ เกิดกลียุคทุกหย่อมหญ้า
'> > > >> คนไทยฆ่าคนไทยด้วยกันเอง ' คืนนั้น
> > > >> สถานีโทรทัศน์ทุกช่องถ่ายทอดสดจากพระราชวังสวนจิตรลดา
> > > >> พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดำรัสกันคนไทยทุกคนว่า
> > > >> ' คนไทยจะฆ่าคนไทยด้วยกันไม่ได้ ทุกอย่างต้องสงบโดยฉับพลัน '
> > > >> และทุกอย่างก็สงบโดยฉับพลัน หลังจากนั้นไม่นาน
> > มีฝรั่งคนหนึ่งมาถามผมว่า
> > > >> ' เป็นไปได้อย่างไร ที่คนๆ
> > > >> เดียวจะมีอำนาจเหนือคนทั้งประเทศได้อย่างนั้น ?' ผมไม่ได้ตอบ
> > > >> แต่ตอนนั้นใจผมคิดถึงประโยคที่ มรว. คึกฤทธิ์ ปราโมชฯ
> > > >> ได้ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ BBC ว่า พระองค์ทรงเป็น 'SOUL OF THE
> > > >> NATION' หรือ' จิตวิญญาณของคนไทยทั้งชาติ' ยังจำกันได้ไหม?
> > > >> แล้ววันนี้เรากำลังทำอะไรกันอยู่ เราสร้างค่านิยมผิดๆ
> > > >> ว่าคนที่ประสบความสำเร็จคือคนที่มีเงินมากที่สุด
> > > >> เราโกงทุกครั้งที่มีโอกาส เราเรียกร้องประชาธิปไตยโดยคิดถึงแต่
> > > >> ' สิทธิ' แต่ลืมคำว่า ' หน้าที่' เรากำลังฆ่ากันเองทุกวันในภาคใต้
> > > >> เราสร้าง ' กฎหมู่' ให้เหนือ ' กฎหมาย'
> > > >> เราเดินขบวนประท้วงในทุกอย่างที่เราไม่เห็นด้วย เราก้าวร้าวต่อกัน
> > > >> เราแตกแยกกัน และทั้งโลกกำลังจับตามองเราอยู่
> > > >> เราเคยหยุดคิดกันบ้างไหมว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของเรา
> > > >> จะทรงเสียพระทัยเพียงใด?
> > > >> แล้วสิ่งที่เราทำไปในวันเฉลิมพระชนมพรรษาคืออะไร
> > การที่เราใส่เสื้อเหลือง
> > > >> สายรัดข้อมือ ที่ว่า Long life The King เราทำเพื่ออะไร
> มันเป็นแค่ผักชีโรยหน้าที่จะแสดงให้โลกเห็นว่าคุณรักพระมหากษัตริย์เพียงใดเท่าน
> > ั้นนะเหรอ
> > > >> 80 ชันษาของพระองค์ท่าน
> หากเปรียบกับคนธรรมดาก็สมควรที่จะได้พักเต็มที่ได้รับการดูแลและระมัดระวังเป็นพ
> >พิเศษ
> > > >> ไม่สมควรที่จะตรากตรำทำงานหนัก แต่กลับเป็นว่า ในปีที่ครบ 80
> > > >> ชันษาของพระองค์ท่านยังต้องทรงงานอยู่ตลอดเวลา ทั้งๆ
> > > >> ที่ทรงต้องอยู่ภายใต้การถวายการดูแลของคณะแพทย์
> > > >> พระองค์ต้องรับทุกข์ของคนไทยทั้งชาติ
> > > >> ความสุขของพระมหากษัตริย์พระองค์นี้
> > > >> ไม่ใช่จะประทับอยู่ในพระราชวังใหญ่โตสวยงาม แห่ล้อม ด้วยข้าราชบริพาร
> > > >> หากแต่ความสุขของพระมหากษัตริย์พระองค์นี้คือ
> > > >> เมื่อประชาชนของพระองค์ท่านรักสามัคคีกัน รู้จักความ พอเพียง
> > > >> และมีสติ-เพียงเท่านี้เอง แล้ววันนี้เรากำลังทำอะไรกันอยู่?
> > > >> หรือนี่คือการแสดงความกตเวทีต่อพระมหากษัตริย์ของเรา?

เครดิต http://www.dek-d.com/board/view.php?id=978286

No comments: